ชีวิตการแข่งรถ ของ นีโค ร็อสแบร์ค

ก่อนเข้าสู่วงการรถสูตรหนึ่ง

นาฬิกาโอริส รุ่นนิโค รอสเบิร์ก และลายเซ็นแจกแฟนๆ

นิโคชอบนั่งตักพ่อหัดขับรถคาร์ทมาตั้งแต่เด็ก ๆ เคเค รอสเบิร์กเองก็ตามใจ และคอยสนับสนุนลูกชายเสมอในการแข่งรถ นิโคเริ่มต้นแข่งรถคาร์ทตั้งแต่อายุได้เพียง 11 ขวบ และได้รางวัลจากการแข่งในหลายประเทศ รวมทั้งในระดับทวีปยุโรปและอเมริกา ในปีค.ศ. 2002 เขาเข้าแข่งรายการฟอร์มูล่าบีเอ็มดับบลิว (Formula BMW) ให้กับทีมของพ่อเขาเอง และคว้าแชมป์ปีนั้นมาได้อย่างง่ายดายด้วยการชนะถึง 9 สนาม เขาจึงได้รับโอกาสให้ขับทดสอบกับทีมบีเอ็มดับบลิว-วิลเลียมส์ (BMW-Williams) เมื่ออายุเพียง 17 ปี 5 เดือน เป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่ได้ขับรถสูตรหนึ่ง นิโคฉายแววให้เห็นตั้งแต่ตอนนั้น เขาทำแบบทดสอบของทีมวิลเลียมส์ได้คะแนนสูงกว่าที่นักขับทุกคนเคยทำมา [1] หลังการขับทดสอบที่คาตาลุนญ่าเซอร์กิต (Circuit de Catalunya) เสร็จลง นิโคก็ตั้งใจว่าจะเป็นนักแข่งรถสูตรหนึ่งให้ได้

นิโคย้ายมาแข่งในรายการฟอร์มูล่าทรี ยูโรซีรีส์ (Formula3 Euroseries) อีกสองปี และทำผลงานได้ดี ในปี ค.ศ. 2005 ทีมบีเอ็มดับบลิว-วิลเลียมส์จึงเซ็นสัญญาให้เขาเป็นนักขับทดสอบของทีม ปีเดียวกันนั้นเอง นิโคลงแข่งรายการจีพีทู (GP2) ซึ่งเพิ่งมีขึ้น และเขาก็คว้าแชมป์ เอาชนะเฮย์กิ โควาไลเนน (Heikki Kovalainen) และสกอตต์ สปีด (Scott Speed) มาได้ นับเป็นแชมป์คนแรกของรายการนี้

แข่งรถสูตรหนึ่ง

นิโค รอสเบิร์กในรถวิลเลียมส์ FW28 ที่มาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ ค.ศ. 2006

หลังจากได้แชมป์จีพีทูมาหมาด ๆ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 แฟรงค์ วิลเลียมส์ (Frank Williams) ก็คว้าตัวนิโคเซ็นสัญญาฉบับใหม่ให้เป็นนักแข่งรถสูตรหนึ่งของทีมสำหรับปี 2006 ทีมเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิโคตัดสินใจขับให้วิลเลียมส์ทันที เขารู้จักทีมงานหลาย ๆ คนแล้วจากตอนที่เป็นนักขับทดสอบ และความสำเร็จของพ่อเขากับทีมวิลเลียมส์ ในปี ค.ศ. 1982 ยังเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้

ในการลงแข่งรถสูตรหนึ่งสนามแรกที่บาห์เรนกรังด์ปรีซ์ นิโคไม่เพียงแต่สามารถเก็บคะแนนได้โดยเข้าเส้นชัยเป็นที่ 7 ทั้งที่ต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนจมูกรถตั้งแต่รอบแรก หากเขายังสร้างสถิติเป็นนักขับอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดของการแข่งขัน ด้วยอายุเพียง 20 ปี 8 เดือน 13 วัน

นิโคควอลิฟายได้อันดับ 3 ในสนามต่อมาที่มาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ แต่ก็ต้องผิดหวัง ออกจากการแข่งขันไปในรอบที่ 7 เพราะเครื่องยนต์พัง ที่ยูโรเปียนกรังด์ปรีซ์ นิโคต้องออกสตาร์ทหลังสุดเนื่องจากเปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่เขาก็สามารถเข้าเส้นชัยเป็นที่ 7 เก็บแต้มได้อีก 2 คะแนน ในสนามที่เหลือของฤดูกาล เขาทำผลงานได้ไม่ดีนัก และมีปัญหากับเครื่องยนต์ทำให้ไม่จบการแข่งขันบ่อยๆ จึงจบฤดูกาลโดยได้เพียงที่ 17 มี 4 คะแนน

ค.ศ. 2007 นิโคยังลงแข่งในนามของทีมวิลเลียมส์ ซึ่งเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่มาใช้ของโตโยต้าแทนเครื่องคอสเวิร์ธเดิม และได้เพื่อนร่วมทีมคนใหม่เช่นกันคืออเล็กซานเดอร์ ววร์ซ (Alexander Wurz) ซึ่งมาแทนที่มาร์ค เว็บเบอร์ (Mark Webber) ที่ย้ายไปขับให้กับทีมเรดบูลเรซซิง (Red Bull Racing)